Spectator โหมดที่ช่วยให้เราได้สอดส่องผู้เล่นที่ต้องสงสัยว่าจะใช้โปร
โปร แฮค ชีท หรือใครจะเรียกยังไงก็แล้ว มันคือสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยขาดหายไปเลยจากวงการเกม แม้แต่ตัวผมเองก็ยังใช้โปรเลย แต่ก็ใช้กับเกม Singleplayer เล่นคนเดียวเท่านั้น (อภัยให้ผมด้วย) แต่สิ่งหนึ่งที่คาดว่าหลายคนคงไม่คิดให้อภัยกับผู้ที่ใช้โปรช่วยเล่น ก็คงหนีไม่พ้นผู้ที่ใช้มันในการเล่นแบบหลายคน หรือ Multiplayer นั่นเองครับ
แน่นอนว่าคนจำพวกนี้มีอยู่ในเกมเกือบทุกเกมที่เล่นผ่านระบบออนไลน์มัลติเพลย์เยอร์บนโลกนี้ได้ไม่ว่าจะเป็น mmorpg, MOBA, Fighting, และแน่นอนเกมหลักของเราวันนี้ที่อยู่ในเกมแบบ FPS
ใครอยู่ที่ไหนทำอะไรยังไง เลือดเหลือเท่าไหร่รู้หมด
Battlefield 4 (หรือจะบอกว่าทุกเกมในซีรีย์ BF ก็ได้) ก็เป็นอีกเกมที่ถูกรบกวนด้วยผู้เล่นนิสัยไม่ดีที่จ้องแต่จะเอาเปรียบผู้อื่นด้วยการใช้โปรแกรมช่วยเล่นไม่ว่าจะใช้ในการตรวจจับตำแหน่งผู้เล่นคนอื่นที่หลายคนเรียกว่า wallhack หรือแม้แต่การใช้ Aimbot แค่คลิกเมาส์ก็ยิงใส่จุดอ่อนคนอื่นแบบไม่ต้องนั่งเล็งให้เสียเวลา กับอีกแบบ Damage Modifier ที่ตรวจจับยากในระดับหนึ่งด้วยการเข้าไปเปลี่ยนแปลงค่าพลังโจมตีให้มันแรงขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งในเรื่องของการรับมือโปรแกรมโกงเหล่านี้ก็ได้คุณ Sabina af Jochnick หัวหน้าฝ่ายระบบต่อต้านโปรแกรมโกงของทาง DICE ออกมาใขข้อข้องใจให้เราเกี่ยวกับวิธีรับมือดูแลและจัดการกับเหล่าคนนิสัยไม่ดีเหล่านี้ครับ
เริ่มจากโปรแกรมที่ใช้ในการตรวจจับโปรแกรมโกงและสิ่งผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเกมนี้ก็คือ FairFight ครับ แต่ว่าตัวโปรแกรมนี้นั้นไม่ได้รับหน้าที่ในการบังคับใช้กฏเพื่อไปตัดสินโทษผู้เล่นนะครับ หน้าที่มันคือตรวจสอบเพียวๆ เลย ส่วนในเรื่องของการตัดสินว่าผู้เล่นที่ต้องสงสัยนั้นผิดจริงไหม ทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้ตัวช่วยมากกว่านี้ครับ เช่นการยืมมือผู้เล่นอย่างเราๆ ไปช่วยเป็นต้น
Jochnick ได้เขียนอธิบายใน blog ว่า การจะสร้างกฏขึ้นมาใหม่มันต้องใช้เวลา และเรายังต้องแน่ใจด้วยว่ามันทำงานได้เที่ยงตรงปกติก่อนที่เราจะนำมันไปใส่ในโปรแกรมด้วย ตัวกฏพวกนั้นต้องได้รับการวิเคราะห์ผลและผ่านการตรวจสอบก่อนใช้งาน เพราะคงไม่มีใครอยากให้ผู้เล่นที่เล่นเกมแบบปกติทั่วไปต้องโดนไล่แบน เพียงเพราะพวกเค้าสามารถทำผลงานได้ดีเยี่ยมในหลายๆเกมที่เล่นไป ตัวกฏต้องไม่สร้างเพียงเพื่อคอยตรวจแค่ค่า K/D ของผู้เล่นเท่านั้น โปรแกรม FairFight นั้นจะใช้หลักการในการพิจารณามากกว่านี้ ซึ่งมันจะคอยรวบรวมเก็บหลักฐานต่างๆ จนมัดตัวผู้กระทำผิดได้
FairFight นั้นยังใช้ในการตรวจจับผู้เล่นที่เข้าไปใช้จุดบัคต่างๆ ในแผนที่ด้วย โดยมันจะทำหน้าที่คอยเตือนและ KIA ผู้เล่นที่เข้าไปใช้บัคเหล่านั้น ซึ่งนี่เป็นวิธีแก้สำหรับบางจุดที่ทางทีมงานยังไม่ได้ออกแพชมาแก้ใข ก็ต้องใช้ FairFight ไปก่อน
สุดท้ายในเรื่องของการลงโทษแบนผู้เล่นนั้นทาง Jochnick บอกว่า ถ้าเป็นไปได้เธอก็ต้องการหลักฐานที่มีน้ำหนักในการใช้มัดตัวผู้กระทำผิด ซึ่งหลักฐานที่ว่านี้ก็อาจจะเป็น Stat ที่ดูผิดปกติแบบสุดโต่ง หรืออัพโหลดวีดีโอแล้วส่งมาเลยก็ได้ เพียงแต่อย่าไปดัดแปลงตัดต่อวีดีโอก็พอ ซึงผู้เล่นคนไหนก็ตามที่ถูกจับได้จริงๆ ว่าโกงนั้น นอกจากจะโดนรีเซ็ตค่า stat แล้วอาจจะโดนแบนด้วยครับ