Dragon Age Inquisition ภาคใหม่ ไฉไล ดุดัน

April 23, 2014

519 views

0 0

[youtube id=”uO2h4qUNJ60″ width=”633″ height=”356″]

วีดีโอล่าสุด สดๆ ร้อนๆ

ในที่สุด Bioware ก็ยอมประกาศวันวางจำหน่ายยอง่าเป็นทางการให้กับซีรี่ย์ชูโรงภาคต่ออีกหนึ่งเกมประจำค่าย Dragon Age: Inquisition ซึ่งก็คือปลายปีนี้เดือนตุลาคมวันที่ 7 ครับ

สำหรับภาค Inquisition นั้น ในที่สุดก็ได้กลับไปสู่รากเง้าของตระกูล Dragon Age สงคราม กองทัพ ความรัก และ ดราม่า ครับผม หลังจากที่ภาค 2 หลายๆ คงคงจะผิดหวังกับเนื้อเรื่องและตอนจบของเกมไป โดยในภาคนี้เราจะได้รับบทเป็นฝ่าย Inquisitor ตามรอยพี่ภาคก่อนที่ภาคแรกเราเป็นฝ่าย Warden ภาค2 ฝ่าย Champion ภาคนี้จับพัดจับผลูกำลังรบกันอยู่แล้วมิติดันแยกกลางฟ้าคนตายเป็นพัน แต่เราดันรอดคนเดียวเป็นเรื่องเป็นราว โดนโทษว่าเป็นต้นเหตุ แล้วก็บลาๆๆๆ กู้โลก สร้างรังรัก ตามแบบฉบับ Dragon Age

เกมเพลย์ในภาคนี้นั้นก็ได้รับการปรับปรุงตามสไตล์ Bioware ที่ว่าภาคต่อแนวการเล่นเกมค่ายตัวเองเปลี่ยนตลอด ซึ่งภาคนี้ ก็จะเสริมความเป็นแอคชั่นที่มากขึ้น รวมทั้งยังผสมระบบหยุดกลางการต่อสู้เพื่อใส่คำสั่งให้ตัวละครในปาร์ตี้เราเฉกเช่นเดียวกับ Dragon Age: Origin นั่นเอง และที่สำคัญภาคนี้จะเป็นภาคแรกที่เกมเปิดตัวระบบสัตว์ขี่ให้ใช้เดินทางด้วย

Inquisition นั้นเปิดโอกาสให้เราสร้างตัวละครได้ตามใจเหมือนภาคแรกที่จะเลือกเผ่าอะไรก็ได้ เพศไหนก็ได้ รวมทั้งยังมี เสียงตัวละครให้เลือกด้วยว่าจะเอาสำเนียงแบบคนอังกฤษหรือคนมะกัน ในภาคนี้ยังคงระบบการมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครในปาร์ตี้ของเราเช่นเคยไม่ว่าจะเป็นการคุยตอบโต้ การให้ของขวัญ แต่ในภาคนี้จะลุ่มลึกขึ้นไปจนถึงการปฏิบัติตัวของผู้เล่นก็มีผลต่อความสัมพันธ์ระยาวเลย และแน่นอนว่าระบบเลิฟๆ ในภาคนี้ยังมีเช่นเคย ใครที่เราตามจีบตามง้อจนได้ปักธงสำเร็จสุดท้ายก็จะได้กินตับในฉาก 18+ ตามสไตล์ Dragon Age

เกมการเล่นในภาคนี้เกือบเรียกได้ว่าเป็น Open-World ในแบบ Skyrim แต่ก็ไม่ถึงขนาดนั้น เพราะก็ยังต้องโหลดเวลาเปลี่ยนแผนที่ แต่แผนที่ในเกมนี้จะกว้าง(มากๆ) ซึ่งเราจะมีอิสระเต็มที่ที่จะสำรวจทุกซอกมุม ในแผนที่จะเต็มไปด้วยเควสย่อยๆ ซึ่งบางทีก็มีผลกับเควสหลัก และยังมีสภานที่ลับซ่อนอยู่ภายในแผนที่ คงเรียกว่าเป็น กึ่ง Open-World นั่นหล่ะ

ที่สำคัญที่สุด Dragon Age: Inquisition ใช้โคตรเอนจิ้นล่าสุดตัวสำคัญของ EA ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนซะได้นอกจาก Frostbite 3 ซึ่งทาง Bioware ก็บอกด้วยว่า ต่อไปเกมหลังๆ ก็คงใช้เอนจิ้นตัวนี้เช่นกัน